เสียงจักจั่นในป่าสน
นวนิยายขนาดสั้นรองชนะเลิศอันดับสอง รางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 11 ประจำปี 2557
สารบัญและบทก่อนหน้านี้
บทส่งท้าย
สามปีต่อมา วันนี้วันเสาร์ รดิศพาพ่อมาเดินเล่นที่สวนรถไฟ ตอนแรกเขาก็เดินเป็นเพื่อนพ่อ แต่ไปๆ มาๆ คนหนุ่มกว่าก็ปล่อยให้พ่อเดินไปคนเดียว ส่วนตัวเองนั่งลงข้างทาง เหม่อมองต้นไม้ และผู้คนที่ผ่านไปมา คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หนึ่งในความคิดของเขาคือเรื่องของอรุษ ชายคนนั้นติดต่อมาหาเขาเมื่อสองสามวันก่อน พวกเขายังติดต่อกันอยู่เสมอ เป็นความเป็นเพื่อนที่น่าตลก ทั้งสองคนเฝ้าแต่คิดถึงผู้หญิงคนเดียวกันที่หายไปจากชีวิตของเขาทั้งคู่ได้หมดจดจนน่าประหลาดใจ
แมลงปอสีแดงตัวหนึ่งบินผ่านหน้าเขาไป แมลงตัวน้อยที่ไม่เคยเห็นมานานมากแล้ว รดิศมองตามมัน และได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “แมลงปอครับลูก ดูแมลงปอสิครับ”
เขามองไปที่เธอ และเธอก็คือเธอคนนั้น
ณิชาดูสูงวัยขึ้นเล็กน้อยทั้งที่ผ่านไปไม่กี่ปี ความเป็นแม่คงเปลี่ยนแปลงเธอไปบ้าง หญิงสาวไว้ผมยาวแล้ว เส้นผมของเธอปลิวไปตามลม สายลมเดียวกับที่พัดกระโปรงยาวสีขาวให้กระพือพันอยู่รอบขา หญิงสาวก้มตัวลง จูงมือกับสิ่งมีชีวิตน้อยๆ ที่เดินเตาะแตะอยู่ข้างหน้า เธอเงยหน้ามาและสบตาเข้ากับเขา
“พี่ดิศ...” เธอเอ่ย มีเค้ารอยของความดีใจอยู่ในน้ำเสียง
เขาลุกขึ้น เดินเข้าไปหา ประดักประเดิกไม่รู้จะว่าอะไรดี
“สบายดีมั้ยณิ” เขาถามติดๆ ขัดๆ ดีใจที่ได้พบเธอแต่ก็รู้สึกประหม่า
“ยังอยู่ดีตามที่ฝันที่หวังไว้ค่ะ พี่ล่ะคะ”
“ก็ดี พี่พาพ่อมาเดินเล่น” รดิศบอก เขาไม่คิดถามว่าเจ้าตัวน้อยกี่ขวบแล้ว เขายังคงนับวันเวลา และคิดว่ายังจำได้ดี
ความเงียบโปรยตัวลงมาระหว่างเขาทั้งสอง ต่างคนต่างมีคำถามที่อยากรู้ แต่ไม่กล้าพูดออกไป
โชคดีที่ณิชาพูดออกมาก่อน “ณิยังอยู่คนเดียวค่ะ ถ้าสีหน้าแบบนั้นคือพี่อยากถาม” เธอพูดและยิ้มๆ ที่ดักทางเขาได้ “พี่แต่งงานรึยังคะ”
รดิศมองหน้าเธอ จะให้แต่งได้อย่างไรเล่า เขายังไม่อาจลืมเธอได้
แต่จะพูดออกไปได้อย่างไร เขาไม่อยากทำให้เธอไม่สบายใจอีก
“พี่เคยบอกรึยังว่า พี่ไม่ชอบมีความรัก” รดิศตอบช้าๆ และทำให้ณิชาหัวเราะ
“นั่นสิคะ” เธอยิ้ม เด็กน้อยเดินเตาะแตะไปข้างหน้า ก่อนจะนั่งตุบลงบนพื้นและลุกขึ้นอีก แกเดินตรงมาเกาะขาของรดิศ ดึงเชือกผูกรองเท้าของเขาออก
“อย่าสิลูก” ณิชาปราม เดินมาดึงแกออกไป แต่รดิศส่ายหน้าว่าไม่เป็นไร
“แกชื่ออะไรเหรอ” รดิศถาม
ณิชามองหน้าเขา คราวนี้เธอกลับเป็นฝ่ายเขิน หญิงสาวเมินมองไปทางอื่นก่อนจะหันมาตอบเขา ยิ้มน้อยๆ แต่ไม่ยอมสบตา “ชื่อรดิศค่ะ”
คำตอบของเธอทำให้เขาแปลกใจ วาบต่อมาหัวใจก็รู้สึกอบอุ่นที่ได้รู้ว่า ไม่ได้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ยังคิดถึงเธอ...
นวนิยายขนาดสั้นรองชนะเลิศอันดับสอง รางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 11 ประจำปี 2557
สารบัญและบทก่อนหน้านี้
บทส่งท้าย
สามปีต่อมา วันนี้วันเสาร์ รดิศพาพ่อมาเดินเล่นที่สวนรถไฟ ตอนแรกเขาก็เดินเป็นเพื่อนพ่อ แต่ไปๆ มาๆ คนหนุ่มกว่าก็ปล่อยให้พ่อเดินไปคนเดียว ส่วนตัวเองนั่งลงข้างทาง เหม่อมองต้นไม้ และผู้คนที่ผ่านไปมา คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หนึ่งในความคิดของเขาคือเรื่องของอรุษ ชายคนนั้นติดต่อมาหาเขาเมื่อสองสามวันก่อน พวกเขายังติดต่อกันอยู่เสมอ เป็นความเป็นเพื่อนที่น่าตลก ทั้งสองคนเฝ้าแต่คิดถึงผู้หญิงคนเดียวกันที่หายไปจากชีวิตของเขาทั้งคู่ได้หมดจดจนน่าประหลาดใจ
แมลงปอสีแดงตัวหนึ่งบินผ่านหน้าเขาไป แมลงตัวน้อยที่ไม่เคยเห็นมานานมากแล้ว รดิศมองตามมัน และได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “แมลงปอครับลูก ดูแมลงปอสิครับ”
เขามองไปที่เธอ และเธอก็คือเธอคนนั้น
ณิชาดูสูงวัยขึ้นเล็กน้อยทั้งที่ผ่านไปไม่กี่ปี ความเป็นแม่คงเปลี่ยนแปลงเธอไปบ้าง หญิงสาวไว้ผมยาวแล้ว เส้นผมของเธอปลิวไปตามลม สายลมเดียวกับที่พัดกระโปรงยาวสีขาวให้กระพือพันอยู่รอบขา หญิงสาวก้มตัวลง จูงมือกับสิ่งมีชีวิตน้อยๆ ที่เดินเตาะแตะอยู่ข้างหน้า เธอเงยหน้ามาและสบตาเข้ากับเขา
“พี่ดิศ...” เธอเอ่ย มีเค้ารอยของความดีใจอยู่ในน้ำเสียง
เขาลุกขึ้น เดินเข้าไปหา ประดักประเดิกไม่รู้จะว่าอะไรดี
“สบายดีมั้ยณิ” เขาถามติดๆ ขัดๆ ดีใจที่ได้พบเธอแต่ก็รู้สึกประหม่า
“ยังอยู่ดีตามที่ฝันที่หวังไว้ค่ะ พี่ล่ะคะ”
“ก็ดี พี่พาพ่อมาเดินเล่น” รดิศบอก เขาไม่คิดถามว่าเจ้าตัวน้อยกี่ขวบแล้ว เขายังคงนับวันเวลา และคิดว่ายังจำได้ดี
ความเงียบโปรยตัวลงมาระหว่างเขาทั้งสอง ต่างคนต่างมีคำถามที่อยากรู้ แต่ไม่กล้าพูดออกไป
โชคดีที่ณิชาพูดออกมาก่อน “ณิยังอยู่คนเดียวค่ะ ถ้าสีหน้าแบบนั้นคือพี่อยากถาม” เธอพูดและยิ้มๆ ที่ดักทางเขาได้ “พี่แต่งงานรึยังคะ”
รดิศมองหน้าเธอ จะให้แต่งได้อย่างไรเล่า เขายังไม่อาจลืมเธอได้
แต่จะพูดออกไปได้อย่างไร เขาไม่อยากทำให้เธอไม่สบายใจอีก
“พี่เคยบอกรึยังว่า พี่ไม่ชอบมีความรัก” รดิศตอบช้าๆ และทำให้ณิชาหัวเราะ
“นั่นสิคะ” เธอยิ้ม เด็กน้อยเดินเตาะแตะไปข้างหน้า ก่อนจะนั่งตุบลงบนพื้นและลุกขึ้นอีก แกเดินตรงมาเกาะขาของรดิศ ดึงเชือกผูกรองเท้าของเขาออก
“อย่าสิลูก” ณิชาปราม เดินมาดึงแกออกไป แต่รดิศส่ายหน้าว่าไม่เป็นไร
“แกชื่ออะไรเหรอ” รดิศถาม
ณิชามองหน้าเขา คราวนี้เธอกลับเป็นฝ่ายเขิน หญิงสาวเมินมองไปทางอื่นก่อนจะหันมาตอบเขา ยิ้มน้อยๆ แต่ไม่ยอมสบตา “ชื่อรดิศค่ะ”
คำตอบของเธอทำให้เขาแปลกใจ วาบต่อมาหัวใจก็รู้สึกอบอุ่นที่ได้รู้ว่า ไม่ได้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ยังคิดถึงเธอ...